Kitaro ขนบทเพลงไล่เรียงบรรยากาศ
ทั้งความสงบ ลึกล้ำ และความยิ่งใหญ่เรียกว่าทันทีที่เสียงดนตรีแรกเริ่มบรรเลง บรรยากาศทั้งฮอลล์ก็เปลี่ยนเป็นอีกโลกหนึ่ง โลกที่เต็มไปด้วยความสงบ ความลึกซึ้ง และพลังแห่งธรรมชาติ เปิดโชว์ด้วยพลังเสียงกลอง Taiko และบทเพลงคุ้นหูอย่าง Silk Road Theme ก่อนจะพาเข้าสู่บทเพลงดังมากมาย อาทิ Caravansary, Aqua, Oasis ฉากหลังถูกแต่งแต้มด้วยภาพสายน้ำ ป่าเขียวขจี และท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ราวกับพาผู้ชมทุกคนออกเดินทางไปในมิติแห่งจิตวิญญาณ ไปจนถึง Hajimari, Sozo, Koi, Orochi และ Angel Queenในช่วงท้าย Kitaro ได้มอบพลังงานอันเต็มเปี่ยมผ่าน Gaia, Matsuri และ Fiesta
ก่อนปิดฉากค่ำคืนด้วยเพลง Reimei
การโชว์ที่มีความล้ำค่าทางดนตรีผ่านเสียงคีย์บอร์ดและเซินธิไซเซอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Kitaro ประสานกับเครื่องดนตรีสดอย่างกีตาร์และเพอร์คัสชันได้อย่างลงตัว ทุกโน้ตดนตรีสะกดให้คนฟังนั่งนิ่งด้วยความเคลิบเคลิ้ม บางช่วงก็พาให้ผู้ชมลุกขึ้นปรบมือก้องกังวานด้วยความประทับใจ สิ่งที่ทำให้ค่ำคืนนี้พิเศษยิ่งขึ้น คือข้อความที่ Kitaro ฝากถึงแฟนๆ ว่า “รอคอยยาวนานที่จะได้กลับมาประเทศไทย อยากให้ทุกคนสนุกไปกับค่ำคืนนี้” และเขาก็ทำได้จริง เพราะตลอดการแสดง ผู้ชมต่างเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และหัวใจที่สั่นไหวไปกับพลังแห่งเสียงดนตรีคอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการแสดงดนตรี แต่เป็นการเดินทางทางอารมณ์และจิตวิญญาณที่ผู้ชมจะไม่มีวันลืมสำหรับใครที่ได้อยู่ในฮอลล์คืนนี้ คงพูดได้เต็มปากว่านี่คือ “ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต”