สำหรับคนเอเชียและคนไทยอย่างเรา วงการบันเทิงและวงการกีฬาถือเป็นสื่อเพลิดเพลินยามว่างอันดับต้น ๆ ที่มีความนิยมควบคู่กัน แต่ในส่วนมาก แฟนคลับไอดอล ไม่ว่าจะเป็นไอดอลเกาหลี ญี่ปุ่น จีน หรือไทย กับแฟนคลับฟุตบอล ไม่ว่าจะดูบอลอังกฤษ บอลสเปน หรือบอลไทย ต่างก็เป็นกลุ่มคนที่หาโอกาสมาทำกิจกรรมอะไรร่วมกันได้ยาก ถึงแม้ทั้งสองกลุ่มนี้จะมีจำนวนคนเยอะมาก แต่โอกาสในการร่วมงานกันระหว่างไอดอลและนักฟุตบอลก็ดูเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยากมาตลอด จนถึงปัจจุบัน วันนี้ เราจะมาดูวิวัฒนาการของความสัมพันธ์ข้ามวงการ ระหว่างแฟนคลับไอดอลและแฟนบอลในเอเชีย ผ่านปรากฏการณ์ในฟุตบอลทั่วโลกรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา
ยุคก่อนฟุตบอลโลก 2022
ก่อนฟุตบอลโลก 2022 จุดคาบเกี่ยวเพียงหนึ่งเดียว ระหว่างแฟนไอดอลและแฟนบอล ก็คงจะเป็นซน เฮือง-มิน หนุ่มเกาหลีหน้าตาหล่อเหลาขวัญใจแฟนไอดอลที่อาจจะชื่นชอบคนเกาหลี แถมยังเป็นนักฟุตบอลที่ฝีเท้าดีที่สุดคนนึงในประวัติศาสตร์เอเชีย พาทีมชาติเกาหลีใต้คว้าแชมป์เอเชียนเกมส์ 2018 ได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่นอกจากนั้น แฟนบอลทั้ง 2 กลุ่มก็แทบไม่ได้มีความชื่นชอบอะไรร่วมกันเลย แถมยังมีความเป็นปฏิปักษ์กันบนโลกโซเชียลอีกต่างหาก ด้วยกลุ่มแฟนไอดอลที่จะสวมบทบาทเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ผลักดันสังคมและสิทธิเสรีภาพ และกลุ่มแฟนบอลที่เต็มไปด้วยผู้ชาย และความเกลียดชัง ทำให้สองกลุ่มนี้ต้องมาปะทะกันอย่างดุเดือดบนโซเชียลมีเดียกันอยู่บ่อย ๆ
แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในฟุตบอลโลก 2022
ฟุตบอลโลก 2022
ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ถือเป็นจุดเปลี่ยนของวงการทั้งสอง เนื่องจากเริ่มมีแฟนไอดอลเข้ามาติดตามทีมชาติต่าง ๆ ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และก็เกิดการสร้างสื่อในรูปแบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับนักฟุตบอล 2 คน ไม่ว่าจะเป็นคู่หูเพื่อนร่วมทีมจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส อย่าง ซน กับ ริชาร์ลิสัน ซึ่งโซเชียลมีเดียก็ปะทุออกมาอย่างรุนแรง เมื่อทั้งสองทีมได้มาเจอกันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แฟน ๆ ไอดอลต่างก็ชื่นชอบความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างซนและริชาร์ลิสัน ทำให้เกิดเป็นกระแสยอดนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้
และถึงแม้เกาหลีใต้จะไปไม่ถึงฝั่งฝัน ก่อนที่บราซิลเองก็จะแพ้ตกรอบเช่นกัน ฟุตบอลโลกในรอบชิงชนะเลิศระหว่างฝรั่งเศสและอาร์เจนติน่า ก็เป็นการดวลกันของสองนักฟุตบอลที่เป็นตัวแทนของกีฬาในสองยุค ลิโอเนล เมสซี เจ้าของฉายานักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล พาอาร์เจนติน่ามาดวลกับฝรั่งเศสของ คิลิยัน เอ็มบัปเป ผู้ที่ถูกหมายมองว่าจะมาเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ของเมสซี
นอกจากแฟนบอลเดนตายจะตั้งหน้าตั้งตารอ ทั้งรอแช่งและรอเชียร์แล้ว แฟนคลับไอดอลต่าง ๆ ก็มาลุ้นติดตามฟุตบอลนัดนี้ด้วยเช่นกัน
เนื่องจากมันเป็นเนื้อเรื่องที่เหมือนกับภาพยนตร์ที่กำลังดำเนินมาจนถึงจุดจบ ทั้งยังเป็นการดวลหน้ากันโดยตรงระหว่างเพื่อนร่วมทีม 2 ช่วงวัย เพื่อถ้วยรางวัลที่ทรงเกียรติที่สุดในโลก ทำให้ฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ถือเป็นฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศที่ดีที่สุดตลอดกาล หรืออาจจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่มันส์ตลอด 120 นาที ที่สุดในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว
ยุคหลังฟุตบอลโลก 2022
หลังจากฟุตบอลโลก 2022 เราก็ได้เริ่มเห็นบริษัทและบุคคลต่าง ๆ มากมาย ที่เล็งเห็นถึงผลประโยชน์จากการเจาะตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกทั้งสองเเห่งนี้ และเริ่มโปรโมตฟุตบอลควบคู่ไปกับไอดอลจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นจีซู จากวง BLACKPINK ที่ได้รับโอกาสมาสัมภาษณ์เพชฌฆาตจากนอร์เวย์อย่าง เออร์ลิง ฮาลันด์ หรือ Solar จากวง MAMAMOO ที่ได้รับโอกาสไปพูดคุยกับ 2 นักเตะจากทีมเซบีญ่า คือ โอลิเวอร์ ตอร์เรส และ ราฟา มีร์
หรือจะเป็น ซน เฮือง-มิน นี่แหละ ที่ออกมาชื่นชมวงบอยแบนด์เกาหลีระดับโลกอย่าง BTS ว่า เป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศเกาหลีใต้ได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมยังรักษาความสัมพันธ์อันดีกับสมาชิกทั้ง 7 คนมาโดยตลอด
โอกาสต่อไปในการติดตามฟุตบอลของสาวกเคป็อป
โปรแกรมใหญ่ต่อไปของทีมชาติเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน และไทย ก็คือโปรแกรมแข่งขันชิงแชมป์ทวีปเอเชีย อย่าง AFC Asian Cup ประจำปี 2024 โดยจะจัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้เอง ก็ถือว่าเป็นสองตัวเต็งที่มีโอกาสคว้าแชมป์สมัยนี้ได้มากที่สุด แฟน ๆ เคป็อปคนไหนอยากจะสนุก มันส์ และทำเงินได้จากการแข่งขันในครั้งนี้ อย่าลืมไปลองพนันออนไลน์ หรือเล่นคาสิโนบนเว็บที่ดีที่สุดกันด้วยนะ
โปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
ทีมชาติญี่ปุ่น ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม D ร่วมกับอินโดนิเซีย อิรัก และเวียดนาม โดยจะเปิดสนามด้วยการลงเเข่งขันกับเวียดนามในวันที่ 14 มกราคม ก่อนจะแข่งขันกับอิรักในวันที่ 19 มกราคม และปิดท้ายรอบแบ่งกลุ่มด้วยการดวลกับอินโดนิเซียในวันที่ 24 มกราคม
ส่วนทีมชาติเกาหลีใต้ อยู่กลุ่ม E ร่วมกับทีมชาติมาเลเซีย จอร์แดน และบาห์เรน มีโปรแกรมลงเตะหลังจากทีมชาติญี่ปุ่น 1 วันในทั้งสามแมตช์เดย์ ทั้งการเจอกับบาห์เรนในวันที่ 15 มกราคม เจอจอร์แดนในวันที่ 21 มกราคม ก่อนจะปิดท้ายรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเจอมาเลเซียในวันที่ 25 มกราคม